เหรียญ รุ่นอายุยืน เนื้อเงิน ปี 17

เหรียญ รุ่นอายุยืน เนื้อเงิน ปี 17

เหรียญ รุ่นอายุยืน เนื้อเงิน ปี 17

  • ราคา 150,000.00.-

จำนวนสินค้า

แชร์สินค้านี้
  • facebook
  • twitter
  • google
พระเครื่อง เมืองสยาม

ราคาพระเครื่อง ขึ้นอยู่กับอะไร? 1.พระกรุ 2.พระเกจิ ที่ได้รับความนิยม 3.มวลสาร - พิธีพุทธาพิเษก 4.ผู้ที่นำไปใช้ ได้ผลเป็นที่ประจักษ์ 5.จำนวนการสร้า้ง 6.ปืนยิงไม่ออก  7.อายุพระเครื่อง ...สินค้าถ้าขายแล้ว จะบอกว่า sold แปลว่าขายแล้ว ไฟกะพริบ....เพราะฉะนั้นไม่ต้องโทรมาถาม...สินค้าของเราเยอะมาก..บางครั้งท่านบอกรหัสทางเราจะจำไม่ได้ ..ให้ดูรายละเอียดสินค้า..ว่าsold หรือไม่... พระเครื่อง เมืองสยาม( อ๊อด ปิ่นเกล้า เซียนพระ ที่ปรึกษา ) ศูนย์รับสั่งจองพระเครื่อง พระบูชา และศูนย์รวมพระเครื่องวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง ทุกรุ่น คัดสวย ขอต้อนรับเพื่อนๆนักนิยมสะสมพระเครื่องเข้าสู่ www.buddhism-amulet.com พระเครื่อง เมืองสยาม โดย พร บางระจัน อาณาจักรพระเครื่องครบวงจร ........คุณไม่จำเป็นต้องดูพระเป็นแต่คุณสามารถเช่าบูชาพระแท้ได้จากบ้านคุณเองโดย คลิกwww.thaiamuletcenter.info โดยคุณ พร บางระจัน ซึ่งบริการพระ สวย แท้ และดูง่าย ส่งฟรีถึงบ้านท่าน พระทุกองค์แท้ตามมาตราฐานสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย คุณจึงมั่นใจและสบายใจได้ 100 % ....... เนื่องจากรายการพระมีมาก และ เพิ่มเติมทุกวัน หากเพื่อนๆค้นหา ลำบากก็ลองใช้ SEARCH ของทางร้านดูครับ สะดวกมากครับ .........ขอขอบคุณผู้ที่สนับสนุน และ แฟนๆ พันแท้ทุกท่านที่ให้ความใว้วางใจเรา งาน ประชาสัมพันธ์ บริการ เป็นหน้าที่ของเรา ........สำหรับท่านที่ต้องการจำหน่ายพระ เรามีพื้นที่ให้บริการ เพียง รูปละ 500 บาท /ปี ราคาผู้ซื้อ - ขาย ตกลงกันเอง เราเป็นเพียงสื่อกลาง...พระที่จะลงโฆษณาต้องเป็นของแท้เท่านนั้น สนใจติดต่อ โดยตรง ..ตามที่อยู่นะครับ .......เพื่อนๆสนใจรุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะ สั่งจองพระ เช่าพระเก่า - ใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก็เขียนลงใน เว็บบอร์ด ได้ครับ หรือหากต้องการด่วนก็โทรสอบถามได้ที่ พร บางระจัน 081-7842076 ... amuletcenter@hotmail.com ................หมายเหตุ บูชาพระแล้วไม่รับคืน หรือ แลกเปลี่ยน  สิ่งศักศิษย์เกิดจากแรงศรัทธา ความเคารพต่อบูรพาจารย์...............เซียนพระ ต้องกล้าได้ กล้าเสีย ทั้งเซียนเล็ก เซียนใหญ่ ต้องเชื่อสายตาตนเอง....

เข้าชมร้านค้า

รายละเอียด

เหรียญ รุ่นอายุยืน เนื้อเงิน ปี 2517
หลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค 
 
** หลวงปู่สีพระอรหันต์ 7 แผ่นดิน 
 
วัดมีการจัดสร้างเหรียญเกลียวเชือก เนื่องในโอกาส;;ผูกพัทธสีมา เหรียญรุ่นนี้มีการตอกโค้ดตัว“ส” ไว้ด้านหน้าเหรียญ มี ๓ เนื้อ ประกอบด้วย เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และเนื้อทองแดง นอกจากมี ยันต์หัวใจพระไตรปิฎก ที่ว่า มะ อะ อุ เช่นเดียวกับเหรียญหลวงปู่สี ฉันทสิริ อายุยืน แล้ว ยังมีการเพิ่มยันต์ไปอีก ๒ ตัว คือ หัวใจพระฉิม ที่ว่า นะ ชา ลิ ติ และหัวใจยอดศีล ที่ว่า พุทธ ะ สัง มิ ในสมัยที่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่สีมักจะเดินทางไปสนทนาธรรมกันอยู่บ่อยครั้ง ในบางครั้งหลวงปู่ศุขก็เดินทางไปพบหลวงปู่สี และบางครั้งก็ไปพบกับหลวงปู่สี และบางครั้งก็ไปพบกับหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ ทั้งสามท่านมีความผูกพันกันมาก มักจะผลัดเปลี่ยนเวียนกันไปพบซึ่งกันและกัน และในบางครั้งก็ออกธุดงค์ไปตามป่าดงพงเขาด้วยกันในบางครั้งบางคราว พระสหธรรมทั้งสาม หลวงปู่กลั่น หลวงปู่ศุข หลวงปู่สี ทั้งสามเกิดปี พ.ศ.ใกล้เคียงกัน หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ เกิดปี พ.ศ.๒๓๙๐ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระอาจารย์ของกรมหลวงชุมพรฯ เกิดปี พ.ศ. ๒๓๙๐ ส่วนหลวงปู่สี ฉนฺทสิริ เกิดปี พ.ศ. ๒๓๙๒ ซึ่งอ่อนกว่าทั้งสองท่านเพียง ๒ ปี แต่พระอาจารย์ทั้งสามท่านก็มีความผูกพันกัน ธุดงค์และศึกษาปฏิบัติธรรมด้วยกัน มีอะไรก็แลกเปลี่ยนกัน ในครั้งที่หลวงปู่ศุขเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่สีได้เดินทางไปเยี่ยมและอยู่สนทนาธรรมกัน หลังจากที่ออกพรรษาแล้วหลายวัน หลวงปู่สีก็คิดว่าจะออกเดินธุดงค์ต่อไป แต่หลวงปู่ศุขก็ขอร้องให้หลวงปู่สีรออยู่ที่วัดก่อน เช้าวันนั้นหลวงปู่ศุขท่านก็ออกบิณฑบาต ฝ่ายหลวงปู่ลี พอเห็นหลวงปู่ศุขไปแล้วท่านก็เก็บของของท่านที่จำเป็นแล้วออกเดินทางไป เมื่อหลวงปู่ศุขกลับจากบิณฑบาต ทราบจากพระในวัดว่าหลวงปู่สีท่านไปแล้ว หลวงปู่ศุขจึงให้พระเณรฉันข้าวก่อน เดี๋ยวจะกลับมาฉันด้วย ต่อจากนั้นท่านก็เข้ากุฏิ นำพระคัมภีร์ ๓ เล่ม ตามไปให้หลวงปู่สี ปรากฏว่าพระอาจารย์ทั้งสองรูปมาพบกันที่ตาคลี จากนั้นหลวงปู่ศุขท่านก็เดินทางกลับวัดที่ชัยนาท ไปฉันอาหารร่วมรับพระเณรจนเสร็จ พระอาจารย์ทั้งสามรูปนี้ท่านสำเร็จอภิญญาชั้นสูง จึงสามารถย่นระยะทางไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งระยะทางจากชัยนาทมาถึงตาคลี ระยะทางประมาณ ๔๐-๕๐ กิโลเมตร ถ้านั่งรถก็ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงเห็นจะได้ ในเรื่องฤทธิ์เดชต่างๆ นี้ เวลาที่ลูกศิษย์ถามหลวงปู่ท่านจะแกล้งล้มตัวลงนอน ไม่ตอบคำถามของลูกศิษย์ แต่หากถามเรื่องธรรมะต่างๆ ท่านก็จะขยายข้อธรรมให้อย่างชัดเจน เพราะท่านไม่ต้องการให้ลูกศิษย์โดยเฉพาะพระภิกษุไปติดในเรื่องเดชฤทธิ์อำนาจ ท่านต้องการให้ใฝ่ใจในเรื่องการปฏิบัติธรรม ในระหว่างที่หลวงปู่สียังมีชีวิตอยู่มีพระเกจิชื่อดังหลายรูปมาขอเป็นศิษย์ อาทิ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญ จ.ชัยนาท หลวงพ่อทบ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์ หลวงปู่แหวนวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ จ.ชัยนาท หลวงพ่อจ้อย วัดแหลมบน จ.ฉะเชิงเทรา และพระครูวิศิษฐสมโพธิ วัดโพธิ์ ท่าเตียน กทม. มาทุกครั้งเป็นต้องเอาชานหมากหลวงปู่กลับไป จึงยืนยันได้ชัดเจนว่าหลวงปู่สีเป็นพระเกจิผู้มีอาคมขลังเมตตาแคล้วคลาดและคงกระพัน อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเพิ่มเติมความรู้ของผู้สะสมพระเครื่องหลวงปู่สี ฉันทสิริ จึงอยากนำเสนอเรื่องของยันต์ที่ปรากฏบนเหรียญของท่านทั้งด้านหน้าด้านหลัง ซึ่งมียันต์ที่น่าสนใจ ดังนี้ พ.ศ.๒๕๑๗ มีการจัดสร้างเหรียญอายุยืน ยันต์หลังเหรียญทั้งครึ่งองค์และเต็มองค์นั้น ยันที่มีรูปสามเหลี่ยมแล้วขนวดมุมทุกมุม คือ ยันต์หัวใจ พระไตรปิฎก ที่ว่า มะ อะ อุ ที่ถอดมาจากคาถาเต็มๆ ที่ว่า มะ ตัวแรกถอดมาจาก คำว่า “อาปามะจุปะ” (พระวินัยปิฎก) อะ ถอดมาจาก คำว่า “ทิมะสังอังขุ” (พระสุตันตะปิฎก) และ อุ ถอดมาจาก คำว่า “สังวิทาปุกะยะปะ” เรียกว่า หัวใจพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ พุทธคุณของยันนี้ ครอบจักรวาลใช้ดีทุกด้าน ส่วนยันต์ที่อยู่บนผ้าสังฆาฏิด้านหน้า คือ “นะ มหานิยม” หรือ “นะ ลือชา” ซึ่งมีพุทธคุณเด่นด้านเมตตามหานิยม นอกจากนี้ยังมียันต์อีกตัวหนึ่ง เข้าใจว่าเป็นโค้ดที่ตอกขึ้นภายหลัง ซึ่งคล้ายๆ กับยันต์ นะ อุด ซึ่งมีพุทธคุณทางมหาอุด ยันต์ตัวนี้เป็นยันต์ตัวเดียวกับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท พ.ศ.๒๕๑๖ สร้างพระสมเด็จปิดตา โดยระบุชื่อวัดและ พ.ศ.ที่สร้าง ยันต์ด้านหลัง คือ ยันต์ที่เขียนในลักษณะพระปิดตา แทน พระสังกัจจายน์ หรือ พระภควัมบดี ซึ่งมีพุทธคุณเด่นทางโชคลาภ ส่วนยันที่อยู่เหนือองค์พระ คือ “นะ มหานิยม” หรือ “นะ ลือชา” ซึ่งเป็นยันต์ที่หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ใช้เป็นประจำ ส่วนยันต์ที่อยู่ในองค์พระ คือ “นะ มะ อะ อุ” ซึ่งเป็นแก้ว ๔ ดวง และเป็นคาถาที่หนุนยันต์ตัวอื่น ให้มีความเข้มขลังเพิ่มขึ้น ยันต์ทั้ง ๔ ตัว มีความหมาย ดังนี้ นะ หมายถึง แก้วมณีโชติ มะ หมายถึง แก้วไพฑูรย์ อะ หมายถึง แก้ววิเชียร และ อุ หมายถึง แก้วปัทมราช ยันต์ตัวนี้เป็นอีกตัวหนึ่งที่พระเกจิรุ่นเก่าใช้กันมาก เช่น หลวงปู่พุ่ม (พระครูรัตนรังสี) วัดบางโคล่นอก ยานนาวา กทม. แต่ตัว นะ เขียนปิด เลยใช้ทางมหาอุดได้ พ.ศ.๒๕๑๙ มีการสร้างเหรียญขวัญถุง ยันต์หลังเหรียญ เป็นยันต์ หัวใจพระฉิม หรือ พระสิวลี ที่ว่า “นะ ชา ลี ติ” มีพุทธคุณเด่นด้านเรียกทรัพย์ และคุ้มครองป้องกันภัย พระเกจิยุคเก่ามักจะใช้ยันต์ตัวนี้ลงในวัตถุมงคล และผ้ายันต์ คาถา หัวใจยอดศีล ที่ว่า “พุทธ ะ สัง มิ” คาถาบทนี้ ถอดมาจากคาถาธรณีปริตรที่สมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าประทานให้แก่พระอานนท์ หรือเรียกว่า พระคาถาข่ายเพชรพระพุทธเจ้า ที่ว่า “ชาโลมหาชาโล ชาลังมหาชาลัง ชาลิเตมหาชาลิเต ชาลิตังมหาชาวิตัง มุตเต มุตเต มุตตัง มุตตัง สัมปัตเตตัง สุตัง คมิติ สุตัง คมิติ มคยีติ ทิฐิลา ทันดลา บันดลา โรคิลา กรลา ทุพพลา ริตติ ริตติ กิตติ กิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ มุตติ มุตติ จุตติ จุตติ ธารณี ธารณีติ อิทังทา ระณะ ปริตรตัง” พ.ศ.๒๕๑๙ วัดมีการจัดสร้างเหรียญเกลียวเชือก เนื่องในโอกาสผูกพัทธสีมา เหรียญรุ่นนี้มีการตอกโค้ดตัว “ส” ไว้ด้านหน้าเหรียญ มี ๓ เนื้อ ประกอบด้วย เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และเนื้อทองแดง นอกจากมี ยันต์หัวใจพระไตรปิฎก ที่ว่า มะ อะ อุ เช่นเดียวกับเหรียญหลวงปู่สี ฉันทสิริ อายุยืน แล้ว ยังมีการเพิ่มยันต์ไปอีก ๒ ตัว คือ หัวใจพระฉิม ที่ว่า นะ ชา ลิ ติ และหัวใจยอดศีล ที่ว่า พุทธ ะ สัง มิ พ.ศ.๒๕๑๘ สร้างเหรียญจตุพิธพรชัย วัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ปฏิสังขรณ์วัดเขาใหญ่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ยันต์ที่ปรากฏหลังเหรียญ คือ ยันต์เฑาะว์ โดยเขียนควงเป็นสี่ชั้น ล้อมรอบด้วยคาถาหัวใจยอดศีล พุทธะ สัง มิ ส่วนยันต์ที่เขียนเป็นแถวด้านล่าง คือ หัวใจพระเจ้า ๕ พระองค์ ที่ว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” โดยรวมแล้วยันต์ทั้ง ๓ ตัวมีพุทธคุณครอบจักรวาล หรือดีทุกด้านนั่นเอง พ.ศ.๒๕๑๔ มีการสร้าง พระสมเด็จฐานดิ่ง พระสมเด็จปรกโพธิ์ และพระผงรูปเหมือนเนื้อชานหมาก เพื่อเป็นที่ระลึกในการสร้างอุโบสถ ในครั้งนั้น วัตถุมงคลรุ่นนี้มีการลงยันต์เฉพาะพระผงรูปเหมือนเนื้อชานหมากเท่านั้น ยันต์ที่ลงไว้ด้านหลัง คือ ยันต์องค์พระ รวมทั้งมีการเขียนยันต์ไว้ในองค์พระด้วย ส่วนที่เป็นเศียร คือ “นะ ไกรสร” ส่วนในองค์พระ คือ “นะ มะ อะ อุ” ซึ่งเป็นยันต์แก้ว ๔ ดวง ส่วนบริเวนฐานซ้ายขวา คือ ตัว อะ พ.ศ.๒๕๑๙ สร้างเหรียญหลวงปู่สี หลังพระปิดตา เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนการสร้างศาลาการเปรียญ ด้านหลังของเหรียญรุ่นนี้มียันต์ที่น่าสนใ จ คือ ตรงเศียรด้านบนของพระปิดตาเป็นยันต์ นะมหานิยม ส่วนด้านซ้ายและขวา คือ ตัว อะ ยันต์ที่อยู่ด้านขวาขององค์พระปิดตา คือ หัวใจยอดศีลที่ว่า พุท ธะ สัง มิ ยันต์ที่อยู่ด้านซ้าขององค์พระปิดตา คือ หัวใจธาตุสี่ ที่ว่า นะ มะ พะ ทะ ส่วนด้านขวาเป็นนาม พระพุทธเจ้าที่ว่า “พุท โธ” แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น อย่างไรก็ตาม หากศึกษาประวัติการสร้างพระหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค ทั้งที่วัดสร้างเอง และบุคคลภายนอกสร้างถวายนั้น สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือ พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก เช่น เหรียญจตุพิธพรชัย สร้าง พ.ศ.๒๕๑๘ มีพระเกจิที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นร่วมปลุกเสก เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กทม. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เท่าที่มีการบันทึก ในการปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้ หลวงพ่อกวยท้าให้มีการทดสอบพุทธคุณด้วยการลองยิงด้วย เมื่อ พ.ศ.2418 หลวงปู่ได้เข้าเป็นทหารอาสาสมัครไปปรามฮ่อ เมื่อรบชนะท่านเกิดเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุที่วัดบ้านเส้า อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ในปี พ.ศ.2431 อายุได้ 39 ปี และท่านได้ออกธุดงค์ ไปนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้พบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่ป่าหลวงพระบาง เมื่อปี พ.ศ.2438 ได้ศึกษาธรรมกับท่าน และท่านได้ออกธุดงค์ มาที่เขตนครสวรรค์ และได้อยู่จำพรรษา วัดถ้ำเขาบุญนาค ตลอดมา จนเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ท่านได้อาพาธ เมื่อหมอได้ทำการฉีดยาปรากฎว่าเข็มหักหมดทุกเล่ม จนกว่าท่านจะอนุญาตจึงจะทำการฉีดได้ จนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ท่านได้อาพาธหนัก และท่านได้พูดว่า "หากข้ามรณภาพเมื่อใด ท่านฤาษีลิงดำ จะมาเป็นผู้จัดการศพของข้าเองของทุกคนอย่าได้เป็นห่วง"และท่านได้มรณภาพลง ปรากฎว่าสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย ปัจจุบันสังขารท่านอยู่ในโลงแก้วที่วัดถ้ำเขาบุญนาค 
ย่นระยะทางไปพบสหายธรรม
 
ในสมัยที่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่สีมักจะเดินทางไปสนทนาธรรมกันอยู่บ่อยครั้ง ในบางครั้งหลวงปู่ศุขก็เดินทางไปพบหลวงปู่สี และบางครั้งก็ไปพบกับหลวงปู่สี และบางครั้งก็ไปพบกับหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ ทั้งสามท่านมีความผูกพันกันมาก มักจะผลัดเปลี่ยนเวียนกันไปพบซึ่งกันและกัน และในบางครั้งก็ออกธุดงค์ไปตามป่าดงพงเขาด้วยกันในบางครั้งบางคราว
พระสหธรรมทั้งสาม หลวงปู่กลั่น หลวงปู่ศุข หลวงปู่สี ทั้งสามเกิดปี พ.ศ.ใกล้เคียงกัน หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ เกิดปี พ.ศ.๒๓๙๐ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระอาจารย์ของกรมหลวงชุมพรฯ เกิดปี พ.ศ. ๒๓๙๐ ส่วนหลวงปู่สี ฉนฺทสิริ เกิดปี พ.ศ. ๒๓๙๒ ซึ่งอ่อนกว่าทั้งสองท่านเพียง ๒ ปี แต่พระอาจารย์ทั้งสามท่านก็มีความผูกพันกัน ธุดงค์และศึกษาปฏิบัติธรรมด้วยกัน มีอะไรก็แลกเปลี่ยนกัน
ในครั้งที่หลวงปู่ศุขเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่สีได้เดินทางไปเยี่ยมและอยู่สนทนาธรรมกัน หลังจากที่ออกพรรษาแล้วหลายวัน หลวงปู่สีก็คิดว่าจะออกเดินธุดงค์ต่อไป แต่หลวงปู่ศุขก็ขอร้องให้หลวงปู่สีรออยู่ที่วัดก่อน
เช้าวันนั้นหลวงปู่ศุขท่านก็ออกบิณฑบาต ฝ่ายหลวงปู่ลี พอเห็นหลวงปู่ศุขไปแล้วท่านก็เก็บของของท่านที่จำเป็นแล้วออกเดินทางไป
เมื่อหลวงปู่ศุขกลับจากบิณฑบาต ทราบจากพระในวัดว่าหลวงปู่สีท่านไปแล้ว หลวงปู่ศุขจึงให้พระเณรฉันข้าวก่อน เดี๋ยวจะกลับมาฉันด้วย ต่อจากนั้นท่านก็เข้ากุฏิ นำพระคัมภีร์ ๓ เล่ม ตามไปให้หลวงปู่สี
ปรากฏว่าพระอาจารย์ทั้งสองรูปมาพบกันที่ตาคลี จากนั้นหลวงปู่ศุขท่านก็เดินทางกลับวัดที่ชัยนาท ไปฉันอาหารร่วมรับพระเณรจนเสร็จ
พระอาจารย์ทั้งสามรูปนี้ท่านสำเร็จอภิญญาชั้นสูง จึงสามารถย่นระยะทางไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งระยะทางจากชัยนาทมาถึงตาคลี ระยะทางประมาณ ๔๐-๕๐ กิโลเมตร ถ้านั่งรถก็ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงเห็นจะได้
ในเรื่องฤทธิ์เดชต่างๆ นี้ เวลาที่ลูกศิษย์ถามหลวงปู่ท่านจะแกล้งล้มตัวลงนอน ไม่ตอบคำถามของลูกศิษย์ แต่หากถามเรื่องธรรมะต่างๆ ท่านก็จะขยายข้อธรรมให้อย่างชัดเจน เพราะท่านไม่ต้องการให้ลูกศิษย์โดยเฉพาะพระภิกษุไปติดในเรื่องเดชฤทธิ์อำนาจ ท่านต้องการให้ใฝ่ใจในเรื่องการปฏิบัติธรรม
** หลวงปู่สีพระอรหันต์ 7 แผ่นดิน **
 

สินค้าที่คุณอาจจะสนใจ

เหรียญ รุ่นอายุยืน เนื้อเงิน ปี 17
เหรียญ รุ่นอายุยืน เนื้อเงิน ปี 17
150,000.00.-