จำนวนสินค้า
เรื่องย่อ
Lost ซีซั่นแรก เล่าเรื่องเกี่ยวกับคน 40 กว่าชีวิตที่รอดจากเหตุการณ์เครื่องบินตก
นั่นอาจเป็นเรื่องดีที่เขารอดมากันได้ แต่ดูเหมือนกับว่าเกาะที่พวกเขาอาศัยอยู่เพื่อรอการช่วยเหลือ
ช่างเป็นเกาะที่ มฤตยูงงงวยตะบวยบรรลัย ซะเหลือเกิน....(อย่าเพิ่งงงกับคำวิบัติคำนี้ ในซีรี่ส์มีให้งงกว่านั้นเยอะ)
เพราะบนเกาะนี้มีทั้งหมียักษ์จากขั้วโลกเหนือ(?)วิ่งไล่ตะปบคน
มีสิ่งเร้นลับที่ชอบส่งเสียงโหยหวนขณะแหวกต้นไม้ยักษ์ในดงป่า
มีอุโมงค์ลึกลับที่ใครไม่รู้มาขุดเอาไว้....และอาจมีใครบางคนอยู่ในนั้น
มีหญิงฝรั่งเศสแก่ๆ ที่บอกกับเราว่าเธออยู่บนเกาะนี้มาสิบกว่าปีแล้วไม่มีใครสามารถมาช่วยพวกเขาได้
มีคนเป็นอัมพาต ที่อยู่ดีๆ ก็เดินได้เมื่ออยู่บนเกาะนี้
มีพวก "คนอื่น" ที่พยายามมาลักพาตัวพวกเขาให้ไปอยู่ด้วย บรึ๊ยส์!!!!!!!!!
และยังมีอะไรอีกมาก...ที่ยังรอการเฉลยอยู่
จนทำให้ในทีแรกที่ลุ้นให้พวกเขารอดกลับไปจากเกาะบ้อบอนี้
กลับกลายเป็นลุ้นว่าสุดท้ายแล้ว "เกาะนี้มันคือเกาะอะไรกันแน่"
และเมื่อไหร่จะเฉลยทุกอย่างให้นู๋รู้ซ้ากกกกที...
ซึ่งก็ดูเหมือนซีซั่นที่ 3 นี้ล่ะ ที่ Lost เริ่มเฉลยปมสำคัญๆ ให้เราทราบกันบ้างเสียที....
ถ้าหากมองจากพล็อตเรื่องย่อหลังปกหรือดูแค่บางช่วงบางตอนของซีรี่ส์
คุณอาจจะคิดว่านี่คือแนว ผจญภัย+ลึกลับระทึกขวัญ
แต่เอาเข้าจริงๆ Lost คือซีรี่ส์แนวดราม่าที่พูดถึงบาปในใจของมนุษย์ต่างหาก
ในแต่ละตอนของ Lost มีการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์(แต่อาจน่าเบื่อสำหรับใครบางคน)
นั่นคือการเล่า Flash Back ของแต่ละตัวละครก่อนมาผจญกรรมบนเกาะนี้
ว่าพวกเขาเคยไปทำอะไรมากันบ้าง
และช่างบังเอิญจริงๆ ที่ทุกตัวละคร ล้วนแต่เคยก่อบาปกรรมอันเลวร้ายมาแทบทั้งสิ้น
แต่ดูเหมือนจะไม่บังเอิญเท่าไหร่ ที่ยิ่งฉายแต่ละเอพิโซดแต่ละซีซั่นไปเรื่อยๆ เราก็จะพบว่า
สิ่งที่เขาได้กระทำเอาไว้ล้วนส่งผลถึงตัวเขา และที่ไม่คาดคิดก็คือยังส่งผลต่อคนอื่นบนเกาะที่พวกเขาคิดว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วย.....
และเหล่านี้ คือคาแรกเตอร์สำคัญของซีรี่ส์ Lost ที่ผมจะมาบอกว่าพวกเขาเป็นใคร...และจะสปอยล์ในแถบดำ(ลากเม้าส์ดูเองนะจ๊ะ)ให้ทราบว่า....ซีซั่น 3 บาปที่พวกเขาได้ก่อกำลังจะมาสนองคืนพวกเขาอย่างไรกันบ้าง?
Lost ปี 3 สำหรับผม สนุกกว่าปี 2 มากครับ ผมว่าปี 2 เป็นอะไรที่พยายามเปลี่ยนไปเป็นแนวแอ๊คชั่น+ไซไฟซึ่งมันไม่เหมาะสำหรับซีรี่ส์นี้เลย
สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดสำหรับซีรี่ส์ Lost ก็คือ ความเป็น Drama ของมัน ที่หากจะดูเอาสนุกก็ได้(เพราะมีหักมุมกันทุกตอน) หรือจะดูแบบตีความก็ได้(ทำไมทุกตัวละครจึงมีปมรุนแรงกับพ่อแม่ตัวเอง)
ยังไม่ต้องพูดถึงตอนจบของซีซั่นนี้ ที่เรียกได้ว่า"น่าสนใจ"มากๆ สำหรับการพลิกบทบาทการแสดงของ Matthew Fox ที่เล่นเป็น แจ๊ค คาดว่าซีซั่นหน้า คงจะเปิดโอกาสให้เขาโชว์ฝีมือการแสดงได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเท่าที่เห็นในตอนสุดท้ายของซีซั่น 3 เขาสามารถเล่นบทเคร่งเครียดเป็นไอ้ขี้เมาได้เข้าตากรรมการมากครับ.....