จำนวนสินค้า
- สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิก ตลาด ดอท คอม เท่านั้น
- ได้รับ Point พิเศษเฉพาะสินค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้
- ได้รับ Point พิเศษในทุกช่องทางการชำระเงิน
- ได้รับ Point สูงสุดไม่เกิน 500 แต้ม ต่อ 1 รายการสั่งซื้อ
- Point มีอายุการใช้งาน 15 วัน หลังจากการอนุมัติโดยระบบ
- ตรวจสอบ เมนูประวัติการได้ Point ได้ที่ (http://point.tarad.com/history)
หมดเขตรับ Point พิเศษ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เวลา 10.59 น.
Sansung Galaxy SL หรือ i9003 เปิดจองในงาน Thailand Mobile Expo 2011 ในราคา 14,900 บาท โดยจะจองเครื่องได้ต้องวางมัดจำ 1,000 บาท ซึ่งก็ถือว่าได้รับความสนใจเยอะพอสมควร จนมาถึงงานเปิดตัวอย่างเป้นทางการในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 พร้อมกับ Samsung Galaxy Family อีก 3 รุ่นด้วยกัน คือ Samsung Galaxy S Super Amoled 16GB และตัวที่ผมได้มารีวิวคือ Samsung Galaxy S Super Clear LCD 4GB, Galaxy Cooper, Galaxy Fit และน้องเล็กสุด Galaxy mini
Samsung Galaxy S Super Amoled 16GB และ Samsung Galaxy S Super Clear LCD 4GB อวดโฉมอย่างสมศักดิ์ศรีด้วยการพัฒนาคุณสมบัติให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น ด้วยหน้าจอซูเปอร์ อโมเล็ด ที่ให้สีสันสวยสด คมชัด และหน้าจอซูเปอร์ เคลียร์ แอลซีดี อีกหนึ่งทางเลือกที่มอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ให้ความสวยสมจริง ถนอมสายตา และคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลของสีสัน และให้ความสว่างชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อใช้งานกลางแจ้ง รองรับ ระบบปฏิบัติการ Android จากเวอร์ชั่น 2.1 มาสู่ 2.2 ให้ประสิทธิภาพการทำงานเร็วขึ้นจากเดิมมากถึง 2-5 เท่า แบตเตอรี่ มีความจุมากขึ้นจาก 1,500 mAh เป็น 1,650 mAh
ต้อง เรียกว่า Sansung Galaxy S กลับมาอีกครั้งฉลองสมาร์ทโฟนที่มียอดขายกว่า 10 ล้านเครื่องทั่วโลก โดยเพิ่มรุ่นที่ใช้หน้าจอ Super Clear LCD ความจุ 4GB มาเพื่อเป็นตัวเล็กของผู้ที่ชื่นชอบ Galaxy S ที่เป็นจอ Super Amoled แต่อาจจะงบไม่พอ ต้องบอกว่าถึงแม้จะไม่ใช้จอแบบ Super Amoled แต่คุณภาพของภาพก็แทบจะไม่เป็นสองรองจาก Super Amoled แน่นอน
Sansung Galaxy SL ยังสามารถรองรับ Adobe Flash 10.1 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หน่วยความจำภายใน 16GB และ 4GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก (Micro SD Card) ได้สูงถึง 32GB การกลับมาในครั้งนี้ต้องยอมรับว่าคุ้มค่าเกินห้ามใจจริงๆ
มาเริ่มรีวิว Sansung Galaxy SL กันเลย
ด้าน หน้าสีสันของหน้าจอสวยงามไม่แพ้ Super Amoled บวกกับ TouchWiz UI ที่มีความสวยงามก็ยิ่งทำให้ Galaxy SL ดูหน้าใช้มายิ่งขึ้น หน้าจอสัมผัส WVGA ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล แน่นอนครับมันคือจอ Super Clear LCD จุดหนึ่งที่แตกต่างระหว่าง Galaxy S Super Amoled และ Galaxy SL นั้นก็คือ ใช้ชิแกราฟฟิก (GPU) คนละตัว
เลข รุ่น GPU แตกต่างกันเพียงแค่ 10 แต่ความสามารถหรือประสิทธิภาพนั้น Galaxy SL ยังคงดูห่างชั้นอยู่เยอะพอสมควรครับ หากพูดถึงเรื่อง GPU ไปแล้ว จะไมพูดถึงเรื่องหน่วยประมวลผลหรือ CPU ก็คงไม่ได้ ถึงแม้ทั้ง 2 ตัวจะใช้ซีพียูความเร็วในการประมวลผล 1GHz เท่ากันแต่ก็เป้นคนละรุ่นอีกเช่นกัน
ด้าน บนจะมีลำโพง กล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ อ่อที่ขาดไม่ได้ก็คือโลโก้ของซัมซุงนั้นเอง ซึ่งการจัดว่างก็เป็นตำแหน่งเดียวกัน หรือจะพูดว่ามันเหมือนกับ Galaxy S ก็ว่าได้ ถ้าจะพูดถึงเรื่องขนาดของ Galaxy SL นั้นตัวเครื่องขนาด 123.7 x 64.2 x 10.6 มม. น้ำหนัก 131 กรัม ซึ่งจะหนาและขนาดยาวกว่ารุ่นเดิมอยู่นิดหน่อย
ปุ่ม ควบคุมของ Galaxy SL มีอยู่ 3 ปุ่มด้วยกันคือ ปุ่มเมนู ผมโฮม และปุ่มย้อนกลับ โดย 2 ปุ่มซ้ายและขวาเป้นปุ่มสัมผัส ส่วนปุ่มโฮมนั้นเป็นปุ่มแบบ HW
ด้านข้างมีเพียงปุ่มเดียวคือ ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง หรือปุ่มล็อกหน้าจอ
ส่วนอีกด้านก็เป็นปุ่มเพิ่มและลดเสียง
ช่อง เสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และช่องเสียบสาย Micro USB สำหรับเสียบสายชาร์จและเชื่อมต่อ USB 2.0 ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ถูกจับยัดรวมกันมาไว้้ที่ด้านบนของตัวเครื่อง
ด้านล่างก็เป็นไมโครโฟน และช่องสำหรับแกะเปิดฝาหลัง
ฝา หลังถูกออกแบบมาสวยงาม ใช้พลาสติกเงางาม กล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล รองรับ Auto focus แต่ไม่มี Flash LEDสามารถถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 1280×720 พิกเซล (720p HD) และมีลำโพงของตัวเครื่องอยู่ข้างๆ
ฝาหลัง
ลองเปรียบเทียบด้านหลังกับมือถือแอนดรอยด์อีก 2 รุ่นได้แก่ Galaxy Cooper และ HTC Desire ส่วน Galaxy SL อยู่ตรงกลางดูสวยงามกว่าใครเพื่อน
โลโก้ตอนเปิดเครื่อง
ลองเปรียบเทียบหน้าจอระหว่าง Super Amoled บน Galaxy S, Amoled บน HTC Desire และ Super Clear LCD บน Galaxy SL
เปรียบเทียบระหว่างคู่พี่น้อง Super Amoled และ Super Clear LCD
Software
Samsung Galaxy SL หรือหมายเลขรุ่นคือ GT-I9003 มาพร้อมกับ Android 2.2.1 ส่วนจะอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่าได้หรือเปล่านั้นต้องรอดูต่อไปครับ แต่ที่แน่ๆ ผมว่าไม่น่าจะสามารถใช้ ROM ตัวเดียวกันกับ Galaxy S ได้แน่ๆ
หน้า Homescreen ก็หน้าตาคล้ายกับรุ่นพี่อย่าง Galaxy S ใช้ UI ชื่อ TouchWiz 3.0
หน้า UI แป้นพิมพ์เบอร์โทรศัพท์ และสมุดรายชื่อ
หน้า UI กล้องและ การตั้งค่าต่างๆ หน้าตาดูแตกต่างจากแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆ เพราะมันถูกครอบด้วย UI TouchWiz ทำให้มีความสวยงาม และผมว่ามันใช้งานได้ง่ายกว่า UI เดิมๆ ของแอนดรอยด์ซะอีก
หน้าตาของแอพฯ ปฏิทิน แอพฯ จัดการไฟล์ สมุดโน๊ต และแกลลอรี่ดูรูปภาพ ที่มาพร้อมกับเเครื่อง
แอ พฯ AllShare ทีติดตั้งมาพร้อมกับเครื่อง สามารถดาวน์โหลดแอพเพิ่มเติมได้ทาง Samsung Apps และแอพฯ Social Hub ที่ประกอบไปด้วย SNS+IM+Push Mail+Calendar Account ตัวแอพๆ เดียว พร้อมด้วย ThinkFree โปรแกรมเรียกดูและแก้ไขเอกสาร
หน้า เมนูตั้งค่าของ Galaxy SL และหน้าแอพพลิเคชั่นก็ถูกครอบด้วย TouchWiz จะเห็นได้ว่าอย่างหน้าแอพพลิเคชั่นนั้นไอคอนแอพจะดูสวยงามขึ้น สีสั้นของไอคอนแลดูหน้าใช้ แน่นอนถ้าเป้นซัมซุงต้องมี Swype มาด้วย
ใน เรื่องของการแสดงผลเว็บไซต์นั้น Galaxy SL ถือว่าทำได้ดีมาก ลิงค์ไม่ลอย ตัดคำได้ดี ตัวหนังสือไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป อีกทั้งยังสามารถแสดงผลแฟรชได้ด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy SL
ทดสอบ Multi-Touch
Samsung Galaxy SL นั้นรองรับ Multi-Touch ทั้งหมด 5 จุดด้วยกันซึ่งทั้งเป็น Multi-Touch แท้ทั้ง 5 จุดลากตัดกันแล้วไม่หาย ซึ่งก็มีมาตั้งแต่ Galaxy S รุ่นแรกแล้วที่สามารถรองรับได้ถึง 5 จุด พอลดสเปคมาเป็น Galaxy SL แล้วทำให้ SL เป็นมือุือราคาหมื่นต้นๆ ที่รองรับ Multi-Touch ได้ถึง 5 จุดไปโดยปริยาย
System Benchmark
ทดสอบ ด้วย System Benchmark ซึ่งเป็นแอพฯ Benchmark ที่หลายๆ คนนนิยมใช้ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่อง โดยร่วมแล้วคะแนนอยู่ในระดับกลางๆ แน่นอนว่าจะให้ไปแข่งกับมือถือรุ่นเทพๆ ก็คงลำบากจากกราฟจะเห็นว่าได้คะแนนเป็นรอง Galaxy S ตัวเดิมอยู่เพียงแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง
Quadrant Standard
ทดสอบ ด้วย Quadrant Standard แอพ Benchmark ยอดนิยม ได้คะแนน 789 คะแนนซึ่งจากกราฟก็อยู่ตรงกลางพอดีแปะเลย ก็ยังคงเป็นรองรุ่นพี่อย่าง Galaxy S เช่นเคย และสูงกว่า Galaxy Cooper ที่ผมเคยรีวิวไปนิดเดียวเอง โดยรวมถือ Galaxy SL ทำออกมาได้ดีครับ ประสิทธิภาพที่ได้ และราคาที่ขายผมว่าก็สมเหตุสมผลกันดี หากใครจะซื้อ Galaxy SL มาเล่นเกมผมว่าก็โอเคครับ แต่อาจจะเล่นเกมที่มีกราฟฟิกสูงๆ ไม่ได้ แต่เท่าที่มีใน Market ที่คนไทยเราสามารถมองเห็น (ไม่ใช่รูทแล้วมองเห็น) ผมว่าเล่นได้เกือบหมดครับ
Neocore
มา ถึงแอพที่นิยมนำมาทดสอบประสิทธิภาพของมือถือแอนดรอยด์ในการทำงานด้านกราฟฟิก นั้นคือ Neocore นั้นเอง Galaxy SL ทำคะแนนได้ถึง 44.9FPS คะแนนที่ได้พอๆ กันกับ Galaxy Cooper ไม่ถือว่าสูงจนต้องร้อง wow ! แต่ก็ไม่ได้ต่ำจนรู้สึกว่า มันจะเล่นเกมได้เหรอ คะแนนอยู่ในระดับกลางๆ
Total Benchmark
ทดสอบ ความเร็วในการประมวลด้วย (CPU) และการแสดงผลด้านกราฟฟิก (3D) ด้วย Total Benchmark ผลก็ตามภาพครับ ความเร็วของการประมวลผลทำออกมาได้ดี ส่วนในเรื่องของการแสดงผล 3D นั้นอยู่ในระดับกลางๆ
Smartbench 2010 และ Smartbench 2011
ทดสอบ Galaxy SL ด้วย Smartbench 2010 และ Smartbench 2011ผลคะแนนแตกต่างกันแค่หลักสิบเท่านั้น จากกราฟดันมาถูกมัดรวมเข้าไปกับกลุ่มท็อปๆ เลยดูด้อยไปทันที กราฟสีขาวเป็นประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่อง ส่วนสีแดง (เหลือหมู) เป็นความสามารถในการเล่นเกม จะเห็นได้ว่า Galaxy SL นั้นความสามารถในการเล่นเกมจะมีเยอะกว่าประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องโดย รวมซะอีก นั้นหมายความว่าซื้อมาเหมาะกับการเล่นเกมเป็นอย่างยิ่ง
An3DBenchXL
ทดสอบ ด้วย An3DBenchXL ได้คะแนนรวมถึง 19,776 คะแนนเลยทีเดียว ตอนที่ผมรีวิว Galaxy Cooper นั้นทดสอบด้วย An3DBench ธรรมดาได้คะแนนเพียงแค่ 7,242 เท่านั้นเอง แต่ Galaxy SL ทำคะแนนออกมาได้ดีมากในการทดสอบด้วย An3DBenchXL
GLBenchmark
GLBenchmark ผมทดสอบใน Galaxy SL เพียงแค่ 2 อันคือ GLBenchmark 2.0 Egypt FSAA ซึ่งได้คะแนน 1313 เฟลม หรือ 11.6FPS ส่วนอีกอันก็คือ GLBenchmark 2.0 PRO FSAA ซึ่งได้คะแนน 951 เฟลม หรือ 19.0FPS
ทดสอลกล้องของ Galaxy SL
สรุป
Samsung Galaxy SL ถือว่าเป็นมือถือแอนดรอยด์อีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ ด้วยจุดเด่นที่มีหน่วยความจำมาให้ถึง 4GB และยังสามารถเพิ่มเองได้สูงสุดถึง 32GB เป็นมือถือราคาหมื่นต้นๆ ที่รองรับ Mluti-Touch ถึง 5 จุด กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงาม รองรับ Adobe Flash 10.1 เปิดเว็บไซด์ผ่าน แอนดรอยด์ บราวเซอร์ได้อย่างไม่มีปัญหาลิงค์ลอย หรือโหลดหน้าเว็บช้า แสดงผลภาษาไทยได้อย่างไม่มีปัญหา UI TouchWiz ที่มีความสวยงามสีสันโดนใจหลายๆ คนแน่นอน ผมทดสอบ Benchmark หลายๆ แอพทำให้เห็นว่าสามารถเล่นเกมได้หลอกหลาย ตั้งแต่เกมที่มีกราฟฟิกระดับต่ำๆ ไปจนถึงระดับกลางๆ หรือสูงก็ยังไหว
ขอบคุณรีวิว และข้อมูลจาก Krapolm.com