จำนวนสินค้า
พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท จัดเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทยองค์หนึ่ง ถึงขั้นที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงดำริให้ชลอมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แต่ทรงรับฟังคำทูลขอร้องของชาวพิษณุโลก ที่ว่าพระพุทธชินราชองค์นี้ เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง จึงทรงตัดสินพระทัยหล่อ พระพุทธชินราชจำลอง ขึ้นมาแทน
บทสวดบูชาพระพุทธชินราช
อิเมหิ นานา สักกาเรหิ อภิปูชิเตหิ ทีฆายุโก โหมิฯ อะโรโค สุขิโต สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะ ปะสิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา พุทธะชินะราชา อภิปาเลตุ มังฯ นะโม พุทธายะฯ
รายละเอียดสินค้า
► กรอบองค์พระ หุ้มทองแท้ หนา 3ไมครอน ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน เก็บให้ห่างจากสารเคมี
► ตัวเรือนทำมาจากโลหะ บรอนซ์อิตาลีแข็งแรงทนทาน
► ขนาด : 1.3ซม. x 1.5ซม.
► ใช้เวลาส่งไม่เกิน 3 วันทำการ (ส่งด่วนพิเศษ EMS)
วิธีการดูแลรักษา
ก่อนใส่ - ให้ทำความสะอาดตัวเรื่อน โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ และเช็ดเบาๆ จนเกิดเงา
ส่วนพลอย ใช้แปรงสีฟันชุบน้ำยาล้างจานเล็กน้อย ขัดด้านในเครื่องประดับ (หลังพลอย) แล้วล้างน้ำ ใ้ห้สะอาด ปล่อยไว้ให้แห้ง
เท่านี้ เครื่องประดับจากร้าน Paszo jewelry store ก็จะเล่นแสงเป็นประกาย พร้อมออกงาน แล้วคะ
หลังใช้งาน - ใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาด แล้วเก็บใส่กล่อง
กรณีเปื้อนเหงื่อ ให้ล้างน้ำเอาคราบเหงื่อออกก่อน เช็ดให้แห้งแล้ว เก็บใส่กล่อง เท่านี้ เครื่องประดับของคุณ ก็ จะมีอายุการใช้งาน นานเท่านาน แล้วคะ ^^
วิธีการสั่งซื้อ
ตำนาน กล่าวไว้ว่า พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏก หรือ พระมหาธรรมราชา
พญาลิไท กษัตริย์ องค์ที่ 4 ในพระราชวงศ์พระร่วง สมัยกรุงสุโขทัย เป็นผู้สร้างพระพุทธชินราช เมื่อราว พ.ศ. 1900 ทรงโปรดให้ช่างสวรรคโลก
ช่างเชียงแสน และช่างหริภุญไชย สมทบกับช่างกรุงศรีสัชนาลัย ช่วยกันหล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 3 องค์ ได้แก่ พระศรีศาสดา พระพุทธชินราชและพระพุทธชินสีห์
จวบจนถึงวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีเถาะจุลศักราช 717 ราว พ.ศ. 1898 ได้มงคลฤกษ์ กระทำพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์
เมื่อเททองหล่อเสร็จแล้ว และทำการแกะพิมพ์ออกปรากฏว่า พระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา องค์พระสมบูรณ์สวยงามดี ส่วนพระพุทธชินราชนั้นได้หล่อถึง 3 ครั้งก็ไม่เสร็จเป็นองค์พระได้ กล่าวคือทองแล่นไม่ติดเต็มองค์ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกจึงทรงตั้งสัตยาธิษฐานเสี่ยงเอาบุญบารมีของพระองค์เป็นที่ตั้งครั้นนั้นจึงร้อนถึงอาสน์พระอินทร์เจ้าจึงนฤมิตเป็นตาปะขาวลงมาช่วยทำรูปพระ คุมพิมพ์ปั้นเบ้า ด้วยอานุภาพพระอินทราธิราชเจ้าทองก็แล่นรอบคอบบริบูรณ์ทุกประการหาที่ติมิได้ พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฏกทรงปิติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง จึงตรัสให้หา "ตาปะขาว" ผู้นั้น แต่ตาปะขาวได้หายตัวไปแล้ว
หมู่บ้านและวัดที่ตาปะขาวหายไปนั้นได้ชื่อว่า บ้านตาปะขาวหายและวัดตาปะขาวหาย ต่อมาจนถึงทุกวันนี้ และจากวัดตาปะขาวหายขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 800 เมตร ได้ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการหายตัวไปของตาปะขาว เล่ากันว่ามีผู้พบเห็นว่าท้องฟ้าเปิดเป็นช่องขึ้นไป ชาวบ้านเห็นเป็นที่อัศจรรย์จึงได้สร้างศาลาขึ้นไว้ ณ พื้นดินเบื่องล่างไว้เป็นที่ระลึก เรียกว่า"ศาลาช่อฟ้า" ตราบจนทุกวันนี้